Mabe (มาเบ) ไข่มุกซีกสุด Classic หนึ่งใน The Must ที่ Pearl Lover ตัวจริงต้องมีไว้ในครอบครอง!!

ไข่มุก Mabe (มาเบ) หลายๆท่านคงคุ้นหูกับชื่อนี้มาบ้าง แต่เอาเข้าจริง ยังมีอีกหลายท่านเลย ยังสงสัยว่าเจ้าไข่มุก Mabe คือไข่มุกประเภทไหนกันแน่? เป็นไข่มุกแท้หรือเปล่า? แล้วทำไมถึงมีทรงแปลกๆ ไม่เหมือนไข่มุกโดยทั่วไป? เอาหละครับใจร่มๆ เดี๋ยววันนี้พี่พรายจะมามัดรวมทุกเรื่องของ Mabe ในบทความนี้ให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับ ตามผมมาเลยครับ

ไข่มุก Mabe คืออะไร?

คำว่า Mabe (มาเบ) มาจากภาษาญี่ปุ่นครับ ซึ่งคำว่า Mabe นั้นเป็นชื่อเรียกหอยปีกนก ซึ่งเป็นหอยที่ใช้เลี้ยงไข่มุก Mabe นั่นเองครับ ไข่มุก Mabe จะมีลักษณะเป็นไข่มุกครึ่งซีก (Half Pearl) มีหลากหลายรูปทรงและขนาด แต่รูปทรงที่นิยมมากที่สุดคือ ทรงโดม (Dome) ครับ มีขนาดตั้งแต่ 8-15 mm แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 12-16 mm ไข่มุก Mabe เป็นไข่มุกเลี้ยง ที่มนุษย์มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงมากที่สุดครับ อีกทั้งยังเป็นไข่มุกที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพ (Treatment) เช่น การย้อมสี (dyeing) การเคลือบ (Coating) การขัด (Buffing) และการเติมวัสดุเพื่อเสริมความแข็งแรง (Filling) อีกด้วยครับ

อนึ่งกระบวนการต่างๆ ที่ใช้ในปรับปรุงคุณภาพ (Treament) ไข่มุก Mabe ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ได้ถูกพิจารณาว่ากระบวนการปกติที่พึงกระทำได้สำหรับไข่มุก Mabe ฉะนั้นการทำ Treatment ในไข่มุก Mabe จึงเป็นที่ยอมรับในตลาดซื้อขายไข่มุก Mabe และผู้นิยมในไข่มุก Mabe ทั่วโลกครับ

การเพาะเลี้ยงไข่มุก Mabe นั้นสามารถเพาะเลี้ยงได้ทั้งในหอยสายพันธุ์น้ำเค็ม (South Sea , Thahitian, Akoya ) และสายพันธุ์น้ำจืด ( Fresh Water Pearl ) แต่หอยที่นิยมนำมาเลี้ยงไข่มุก Mabe มากที่สุดได้แก่ หอยปีกนก Winged Oyster ( Ptera Penguin) และ The Rainbow Lip Oyster (Ptera Sterna)

การเพาะเลี้ยงไข่มุก Mabe มีวิธีการอย่างไร?

 ในการเพาะเลี้ยงไข่มุก Mabe นั้นจะมีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่าการเพาะเลี้ยงไข่มุกเลี้ยงโดยทั่วไป ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นเดี๋ยวพี่พรายแจกแจงให้ฟังนะครับ

การเพาะเลี้ยงไข่มุก Mabe นั้น จะเลี้ยงบนฝาหอยด้านใน (Inner Shell) ของตัวหอยครับ โดยการ ติดบีด นิวเคลียส ( Bead Nucleus) ซึ่งโดยทั่วไปจะทำมาจากเปลือกหอย หรือเม็ดพลาสติกลงบนเปลือกหอยด้านในครับ รูปทรงของเม็ดบีท นิวเคลียส ก็มีหลากหลายครับ เช่น ทรงกลมครึ่งซีก (Dome) รูปดาว (Star), รูปหยดน้ำ(Drop) เป็นต้น โดยจะใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงประมาณ 1-2 ปีครับ

การเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้น จะใช้วิธีการแซะไข่มุกจากเปลือกด้านในของฝาหอย ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ไม่สามารถเลี้ยงหอย Mabe ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้อีกต่อไป อันเนื่องจากฝาหอยนั้นถูกทำลายโดยสมบูรณ์ครับ

เมื่อแซะไข่มุกออกจากฝาหอยแล้ว ก็จะนำเม็ดบีด นิวเคลียสภายในออก ซึ่งจะเกิดรูกลวงขนาดใหญ่ภายในของไข่มุก ซึ่งในขั้นตอนนี้ เรซิ่น (Resin) ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง จะถูกนำมาเติมในรูกลวงเพื่อแทนที่เม็ดบีด นิวเคลียสที่ถูกนำออกไป เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง (Reinforcement)ให้เม็ดมุกนั่นเองครับ

จากนั้นจึงนำเปลือกหอยที่ผ่านการตัดและเจียระไนแล้วมาผนึกด้านท้ายของไข่มุกอีกที ซึ่งเปลือกหอยดังกล่าวทำหน้าที่เหมือนกับฝาปิด(Lid) ของเม็ดมุกนั่นเองครับ

จากนั้นจึงนำไข่มุก Mabe ที่ประกอบเสร็จแล้ว ไปขัดให้เรียบ และเคลือบเงาต่อไปครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ หลายขั้นหลายตอนเอาการอยู่นะครับ กว่าจะมาเป็น Mabe ที่เฉิดฉาย สวยงาม อย่างที่เห็นๆกันครับ

ไข่มุก Mabe ราคาแพงไหม?
อันเนื่องมาจากการเพาะเลี้ยงไข่มุก Mabe มีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่าไข่มุกชนิดอื่น มีการปรับปรุงคุณภาพของไข่มุก (Treament) ในระดับโครงสร้าง อีกทั้งยังเป็นไข่มุกที่มิใช่ไข่มุกในอุดมคติของผู้ซื้อหาไข่มุก ซึ่งมองหาและนิยมไข่มุกที่มีทรงกลมมากกว่า ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ดูเหมือนว่า ไข่มุก Mabe จะมีราคาที่ด้อยลงไปเมื่อเทียบเท่ากับไข่มุกชนิดอื่นครับ

แต่ในข้อด้อยมักมีข้อดีซ่อนอยู่เสมอ อันเนื่องมาจากรูปทรง (Shape) ของไข่มุก Mabe นั้นสามารถแนบสนิทกับพื้นผิวของร่างกายได้ดีกว่าไข่มุกชนิดอื่น จึงทำให้นักออกแบบเครื่องประดับสามารถปรับแต่ง เครื่องประดับไข่มุก Mabe ได้อย่างหลากหลาย ถึงกับมีคำกล่าวไว้ว่า “ไข่มุก Mabe คือสวรรค์ของนักออกแบบเครื่องประดับไข่มุกอย่างแท้จริง” เลยทีเดียวครับ

ดังนั้นมูลค่าของเครื่องประดับไข่มุก Mabe จึงเป็นสัดส่วนของมูลค่าทางความคิด การสรรค์สร้างเครื่องประดับ และรสนิยมของผู้สวมใส่ นำมูลค่าของตัวไข่มุกนั่นเอง กล่าวคือเครื่องประดับไข่มุก Mabe แพงกับค่า Design นั่นเองครับ