เช็ค Luster ไข่มุก เรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้

ความเงาวาวหรือลัสเตอร์ (Luster) ของไข่มุกนั้น อาจเป็นเรื่องยุ่งยากในการอธิบายให้ผู้ที่เป็นมือใหม่ในวงการไข่มุกเข้าใจ อันเนื่องมาจากอัญมณีชนิดอื่นอาจจะมีความเงาวาวหรือลัสเตอร์ที่มีลักษณะแตกต่างจากไข่มุกนั้นเอง แต่การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับลัสเตอร์ของไข่มุกนั้น นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกซื้อหรือการให้เกรด (Grading) ไข่มุก บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำวิธีการตรวจสอบลัสเตอร์ของไข่มุกด้วยตนเองและสามารถคัดแยกคุณภาพของไข่มุก โดยใช้ความเงาวาวหรือลัสเตอร์เป็นเกณฑ์ได้

หากจะพูดถึงปัจจัยที่ส่งเสริมมูลค่าของไข่มุกทั้ง 7 ประการ (Pearl 7 Value Factors) ความเงาวาวหรือลัสเตอร์ (Luster) นั้นถือเป็นปัจจัยที่เราให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เหนือคุณภาพของพื้นผิว ความสมมาตรของรูปทรง และขนาด ซึ่งหากไข่มุกที่ไม่มีความแวววาวเลย จะถือว่าเป็นไข่มุกคุณภาพต่ำและมีราคารองลงมา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือลัสเตอร์ของไข่มุกนั้นเป็น “ปัจจัยด้านมูลค่าที่แท้จริง” ของไข่มุก ที่นักอัญมณีศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านไข่มุก รวมทั้งผู้ค้าไข่มุกทั่วโลกใช้ประเมินราคาของไข่มุกนั่นเอง

ความเงาวาวหรือลัสเตอร์ (Luster) ของไข่มุก คืออัตราของแสงสะท้อนที่หักเหและตกกระทบบนพื้นผิวของไข่มุก ที่เราสามารถมองเห็นได้ อย่างที่ทุกท่านทราบพื้นผิวของไข่มุกก็คือชั้นเนเคอร์ (Nacre) โดยชั้นเนเคอร์นั้นเกิดจากสารที่หลั่งออกมาเพื่อเคลือบสิ่งแปลกปลอมตามกลไกการป้องกันตัวตามธรรมชาติของแม่หอย ซึ่งองค์ประกอบหลักของชั้นเนเคอร์ก็คือแคลเซียมคาร์บอเนตที่อยู่ในรูป Aragonite Crystal เรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ เมื่อมีแสงมาตกกระทบจะเกิดการหักเหของแสงทำให้เรามองเห็นเหลือบสี (Overtone) และความเงาวาวของไข่มุก ซึ่งหากชั้นเนเคอร์ของไข่มุกยิ่งหนา ไข่มุกก็จะยิ่งมีความเงาวาวสูงตามไปด้วย

โดยทั่วไปไข่มุกสายพันธุ์น้ำเค็มนั้นจะมี Luster ที่เงางามและลึกกว่าไข่มุกสายพันธุ์น้ำจืด โดยไข่มุกที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเงางามสูงที่สุด (Strong Luster) คือไข่มุกสายพันธุ์ Akoya ในขณะที่ไข่มุก South Sea โดยทั่วไปจะมีความเงาวาวในลักษณะนวล หรือที่เราเรียกว่า Soft Luster

คุณภาพลัสเตอร์ของไข่มุกนั้น มีตั้งแต่ระดับต่ำถึงสูงมาก ไข่มุกที่มีคุณภาพลัสเตอร์ต่ำ เราจะเห็นแสงสะท้อนที่ตกกระทบบนพื้นผิวของไข่มุกที่อ่อน มัว ค่อนข้างเบลอ ตรงกันข้ามกับไข่มุกที่มีลัสเตอร์ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเราจะสามารถเห็นแสงสะท้อนจากไข่มุกที่มีความเงา วาววาว และคมชัดสูง ในสมัยโบราณนิยมวัดคุณภาพของลัสเตอร์ ด้วยวิธีการส่องกับใบหน้า หากสามารถเห็นภาพสะท้อนและรายละเอียดอวัยวะบนใบหน้าในเม็ดมุกได้อย่างชัดเจน จะถือว่าไข่มุกเม็ดนั้นมีความเงาวาวหรือลัสเตอร์สูงนั่นเอง

ในปัจจุบัน สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา

(Gemological Institute of America: GIA ) ได้แบ่งระดับความเงาวาวของไข่มุก ดังนี้

• Excellent – Reflections appear bright and sharp

• Very Good – Reflections appear bright and near sharp

• Good – Reflections are bright but not sharp, and slightly hazy around the edges

• Fair – Reflections are weak and blurred

• Poor – Reflections are dim and diffused

สิ่งที่พิสูจน์ว่าความเงาวาวของไข่มุกเป็นปัจจัยด้านมูลค่าที่แท้จริงของไข่มุกอีกประการหนึ่งก็คือ การวัดค่าคะแนนความเงาวาวของไข่มุก หรือ “TERI” โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงที่เรียกว่า Aurora Viewer ของห้องปฏิบัติการ Pearl Science Lab ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยไข่มุก Akoya ที่มีความเงาวาวในระดับสูงสุด ในระดับเงาเหมือนกระจก (Mirror Like) จะถูกจัดอยู่ในคุณภาพระดับ Hanadama

เอาละครับ หวังว่าสาระน่ารู้ที่พี่พรายนำมาฝากในวันนี้จะถูกใจบรรดา Pearl Lovers ทั้งหลายของ PAKASIA นะครับ ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้พี่พรายด้วยนะครับ ถ้าท่านมีข้อสงสัยประการใดสอบถามพี่พรายเข้ามาได้นะครับ ตามช่องทางดังนี้ครับ

Line id : @mookdee
Tel :  075-810-028
IG: pakasia_pearls
facebook: Pakasiaa Prime
www.pakasiapearl.com