4 เหตุผลที่ทำไมช่วงนี้ไข่มุกราคาสูงขึ้น?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ราคาไข่มุกได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ดังที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วว่า อุปทาน (ความต้องการในการขาย) มีความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับสภาพของอุตสาหกรรมการเลี้ยงหอยมุกและปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสภาวะโลกร้อน, ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และการหยุดชะงักของห่วงโซ่การผลิตไข่มุก (การตายของแม่หอย Akoya ญี่ปุ่น)

ในบทความนี้ จะอธิบายถึงปัจจัยแต่ละประการที่ทำให้ราคาไข่มุกเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการประเมินแนวโน้มราคาของไข่มุกในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

1. การตายของหอยนางรม Akoya ญี่ปุ่น
2. ราคาไข่มุกในยุคเศรษฐกิจโควิด-19
3. ภาวะโลกร้อนกับคุณภาพของไข่มุก
4. ราคาไข่มุกในตลาดประมูล

การตายของหอย Akoya ญี่ปุ่น

ไข่มุกนั้นเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และปรากฎการณ์การตายของหอย Akoya ญี่ปุ่น จำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาไข่มุกในตลาดโลกเป็นอย่างมาก มีฟาร์มไข่มุกเลี้ยงจำนวนจำกัดมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากภัยธรรมชาติและโรคภัยไข้เจ็บ ตัวอย่างล่าสุดคือผลกระทบร้ายแรงของปรสิตในหอยนางรมที่เรียกว่า Bonamosis ในญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้หอยนางรมโตเต็มวัยตายไปกว่า 70% ปรสิตชนิดนี้ถูกพบในประเทศอื่นๆ เช่นกัน รวมทั้งประเทศจีนและออสเตรเลีย แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่ากับในประเทศญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะในประเทศเหล่านั้นมีปริมาณการเพาะเลี้ยงหอย Akoya ไม่มากเท่าประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง สิ่งนี้นำไปสู่การขาดแคลนไข่มุกคุณภาพสูงทั่วโลก เนื่องตลาดขาดผู้ผลิตไข่มุกรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งไป ราคาของไข่มุกต่อกรัม (mome) จึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตามเรายังเห็นความต้องการเครื่องประดับชั้นดี อย่างเครื่องประดับไข่มุกเพิ่มมากขึ้นในท้องตลาด เนื่องจากผู้บริโภคมองหาวิธีการเพิ่มความหรูหราให้กับการแต่งกายในชีวิตประจำวันของพวกเขา โดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากในการซื้อหาอัญมณีราคาแพง เช่น เพชร หรือทับทิมมาสวมใส่ แนวโน้มนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปอีกในปี 2566

ราคาไข่มุกในยุคเศรษฐกิจโควิด-19

การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหอยมุกในหลายๆด้าน ผลกระทบประการแรกและสำคัญที่สุดคือการลดลงของอุปทาน (ความต้องการในการขาย) ของไข่มุก เนื่องจากแรงงานจำนวนมากได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวทำให้มีจำนวนแรงงานไม่เพียงพอต่อการผลิตไข่มุก สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้ปริมาณของไข่มุกมีจำนวนลดลง คือการขาดผู้ชำนาญการในการเก็บเกี่ยวและแปรรูปไข่มุก สิ่งนี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตของไข่มุกทั่วโลก

ผลกระทบต่อราคาไข่มุกดำ

การขาดแรงงานที่มีคุณภาพส่งผลกระทบต่อทั้งอุปสงค์ (ความต้องการในการซื้อ)และอุปทาน(ความต้องการในการขาย) ด้วยจำนวนคนงานที่น้อยลงในการเก็บเกี่ยวและทำความสะอาดไข่มุก ทำให้มีปริมาณไข่มุกไม่เพียงพอสำหรับผู้ซื้อ สิ่งนี้ทำให้ราคาของไข่มุกทุกสายพันธุ์สูงขึ้นอย่างมาก แต่ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อไข่มุกตาฮิติ (หรือที่เรียกกันว่าไข่มุกดำ) มากที่สุด เนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่

ภาวะโลกร้อนและคุณภาพของไข่มุก

คุณภาพของไข่มุกจะสัมพันธ์กับอุณหภูมิของน้ำ ยิ่งอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของหอยมากเท่าใด คุณภาพของไข่มุกที่หอยสามารถผลิตได้ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น อุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของไข่มุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ผู้เลี้ยงหอยมุกจึงจำเป็นต้องตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำและจำต้องปรับเปลี่ยนการเลี้ยงไปตามความเหมาะสม นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่มุกเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไข่มุกที่มีคุณภาพสูงมีจำหน่ายในท้องตลาดน้อยลง ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อโลกของเราอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดายที่แนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปตราบเท่าที่มนุษย์ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสภาพแวดล้อมที่เกิดจากน้ำมือของเราเอง และหันมาแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง

ราคาไข่มุกในการประมูล

การจัดประมูลไข่มุกเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระจายไข่มุกจากฟาร์มไปยังผู้ค้าส่งมาโดยตลอด ปัจจุบันอุปสรรคในการเข้าสู่การประมูลลดลง ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย และลูกค้าสามารถเข้าร่วมการประมูลได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งนี้ได้สร้างความยากลำบากให้กับผู้ค้าส่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดการแข่งขันทางด้านราคากันเองระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า ผลที่ตามมาคือราคาไข่มุกเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเสนอราคาสูงเกินความเป็นจริงจากผู้ประกอบการหรือลูกค้าที่ไม่ใช่มืออาชีพนั่นเอง ดังนั้นผู้ประกอบการหลายๆแห่ง จึงหลีกเลี่ยงปัญหานี้ด้วยการจัดหาไข่มุกจากแหล่งเพาะเลี้ยงไข่มุกโดยตรงจากฟาร์ม โดยยังมีความเชื่อว่าตลาดจะแก้ไขตัวเอง การเสนอราคาที่สูงเกินจริงในการประมูลจะทำให้ต้นทุนไข่มุกที่จัดหามาในการประมูลนั้นสูงมาก ยากที่จะจัดจำหน่ายได้ในท้องตลาด ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ตลาดการประมูลไข่มุกอาจจะกลับสู่ภาวะปกติและจะกลับมาเป็นแหล่งกระจายไข่มุกไปสู่ผู้ค้าส่งจริงๆ อีกครั้ง

ราคาไข่มุกน้ำจืด

ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อไข่มุกน้ำจืดมากนัก เนื่องจากการเพาะเลี้ยงไข่มุกนั้นทำในแหล่งน้ำจืด อย่างไรก็ตาม การปิดเมืองอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน จากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของไข่มุกน้ำจืดทั่วโลก เนื่องจากประเทศจีนเป็นผู้ผลิตไข่มุกน้ำจืดรายใหญ่ที่สุดของโลก

ตอนนี้เราได้เห็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของการเพิ่มขึ้นของราคาไข่มุกแล้ว ซึ่งหวังว่าตลาดไข่มุกจะปรับสมดุลได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เมื่อประชากรแม่หอย Akoya ญี่ปุ่นได้รับการฟื้นฟู ผลผลิตไข่มุก Akoya จะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งหวังว่าจะนำไปสู่การลดลงของราคา (หากปริมาณความต้องการบริโภคไข่มุก Akoya คงที่) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบางประการ เช่น มลพิษทางน้ำ หรือภาวะโลกร้อนนั้นไม่ได้อยู่ในความควบคุมของเรา สิ่งนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของไข่มุก ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาของไข่มุกในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน

เอาละครับ หวังว่าสาระน่ารู้ที่พี่พรายนำมาฝากในวันนี้จะถูกใจบรรดา Pearl Lovers ทั้งหลายของ PAKASIA นะครับ ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้พี่พรายด้วยนะครับ ถ้าท่านมีข้อสงสัยประการใดสอบถามพี่พรายเข้ามาได้นะครับ ตามช่องทางดังนี้ครับ

Line id : @mookdee
Tel :  075-810-028
IG: pakasia_pearls
facebook: Pakasiaa Prime
www.pakasiapearl.com
 ที่มา: https://www.pearls.jp/experts-explain-why-pearl-prices-are-on-the-rise/